ปูอลาสก้าดุงปูทำให้บ้านของมันอยู่ในน้ำทะเลที่สะอาดและเย็นนอกชายฝั่งของอลาสก้าที่ซึ่งมันอาศัยอยู่ในสาหร่ายกินอย่างมีความสุขและเติบโตขึ้นเป็นขนาดใหญ่ มีชื่อเสียงในเรื่องของเนื้อฉ่ำที่มีทั้งความนุ่มและหวานมีสิ่งหนึ่งที่ต้องทำเพื่อเตรียมความพร้อมอื่น ๆ จากนั้นนึ่งด้วยไอน้ำและเสิร์ฟพร้อมกับเนยละลายหรือมะนาวเล็กน้อย แต่นักชิมและนักชิมมืออาชีพ
ที่ต้องการจะไม่ปล่อยให้เนื้อสัตว์ที่อร่อยตามธรรมชาติยับยั้งพวกเขาจากการสร้างสรรค์ ต่อไปนี้เป็นวิธีการคิดนอกกรอบหรือเปลือกหอยหนึ่งในแนวคิดการทำอาหารที่ยอดเยี่ยมที่มีไหวพริบมากขึ้นอีกเล็กน้อยคือการแทนที่ เนื้อปูที่หนึ่งจะหาปลาในสูตร ทาโก้ปลาเป็นที่นิยมอย่างมากขึ้น ๆ ลง ๆ ทางฝั่งตะวันตกและถ้าคุณมีปูอลาสก้าดุงไม่กี่ตัวในมือ
ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปเติมปลาทาโก้กับปู
ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ไปเติมปลาทาโก้กับปู โยนมะนาวแทนมะนาวและได้ผลลัพธ์ที่จะทำให้แขกงานเลี้ยงอาหารค่ำทุกคนยกย่องชมเชยอาหารและขอสูตรอาหาร ด้วยรสชาติที่หวานของเนื้อสัตว์ไม่จำเป็นต้องฝังทาโก้ในซอสหรือชีสเพราะรสปูฉ่ำควรอยู่ด้านหน้าและตรงกลางเสมอนี่เป็นอีกหนึ่งสูตรสำหรับการนำเสนอรสชาติตะวันตกเฉียงใต้ในอาหารมื้อค่ำปูแสนอร่อย คุณจะต้องเริ่มด้วยเนื้อปูที่ปรุงสุกแล้วและทำความสะอาดอย่างน้อยสองปอนด์ เริ่มต้นด้วยการผัดสองหัวหอมหั่นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า
และกระเทียมสี่กลีบ สำหรับผู้ที่ชอบเครื่องเทศการขว้างด้วยพริกไทย jalepeno เดียวกับเนยก็เป็นความคิดที่ดีเช่นกัน เมื่อหัวหอมกลายเป็นโปร่งใสคุณสามารถเพิ่มเนื้อปูของคุณ ปรุงทั้งหมดนี้ประมาณ 10 นาทีถัดไปเพิ่มผักชีสับหนึ่งพวง, ยี่หร่าบดสองช้อนโต๊ะและน้ำผลไม้จากมะนาวสองใบ ผสมให้เข้ากันอย่างทั่วถึงและปล่อยให้เนื้อแช่ในรสชาติของสมุนไพรและเครื่องเทศ จากนั้นนำออกจากความร้อนและฝาครอบ เมื่อเย็นแล้วช้อนตอร์ตียาและราดด้วยซัลซ่าที่คุณชื่นชอบ
มันเป็นวิธีการทาโก้แบบใหม่ที่จะทำให้แขกแทบน้ำลายไหล
มันเป็นวิธีการทาโก้แบบใหม่ที่จะทำให้แขกแทบน้ำลายไหลก่อนอื่นก่อนที่คุณจะเริ่มทำอาหารต้องแน่ใจว่าสิ่งแรกที่คุณทำคือเตรียมสต็อกเพื่อให้พร้อมเมื่อจำเป็น สิ่งที่ดีที่สุดที่จะทำคือมีสต็อคแค่เคี่ยวและไม่มากบนหม้อหุงถัดไปเนื้อปูมักจะเก็บรักษาไว้ในน้ำเกลือ ใส่เนื้อปูลงในกระชอนขนาดเล็กแล้วกดเนื้อด้วยช้อนเพื่อให้น้ำเกลือผ่านตะแกรง ทิ้งน้ำเกลือแล้ววางเนื้อปูพาสเจอร์ไรซ์ไว้ใส่น้ำมันมะกอกในกระทะขนาดใหญ่
ตั้งน้ำมันให้ร้อนแล้วใส่กระเทียมขับเหงื่อให้กระเทียมผ่านความร้อนอย่างอ่อนโยนจนกระทั่งเป็นสีทอง เมื่อกระเทียมเปลี่ยนเป็นสีทองให้รีบนำออกจากกระทะแล้วทิ้งไปถัดไปเพิ่มหัวหอมและเหงื่อในความร้อนปานกลางประมาณ 3-5 นาทีหรือจนกว่าจะอ่อนเพิ่มข้าวผัดจนข้าวเคลือบด้วยน้ำมัน คุณจะเห็นว่าข้าวจะเริ่มโปร่งแสง คอยกวนข้าวให้เหงื่อสักครู่หรือสองนาทีจากนั้นเพิ่มไวน์ขาวกวนต่อไปและปล่อยให้ไวน์ระเหยอาจใช้เวลาสองสามนาที
